![]() |
ตราประจำจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ |
ความหมายของตราประจำจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
ตราของกรุงเทพมหานคร เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระหัตถ์ทรงสายฟ้า ตรานี้กรมศิลปากรออกแบบโดยอาศัยภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นต้นแบบ เริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2516 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัดิเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ฉบับที่ 60 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 (สมัยเมื่อยังเป็นจังหวัดพระนครนั้นใช้ตราพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นตราประจำจังหวัด)
ชื่อเต็มของจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
กรุงเทพมหานคร อมรรัตรโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
ความหมายของชื่อจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
พระนครอันกว้างใหญ่ ดุจเทพนคร เป็นที่สถิตของพระแก้วมรกต เป็นมหานครที่ไม่มีใครรบชนะได้ มีความงามอันมั่นคง และเจริญยิ่ง เป็นเมืองหลวงที่วิมานเทพที่บริบูรณ์ด้วยแก้วเก้าประการ น่ารื่นรมย์ยิ่ง มีพระราชนิเวศน์ใหญ่โตมากมายเป็นที่ประทับของพระราชาผู้อวตารลงมา ซึ่งท้าวสักกเทวราชพระราชทานให้พระวิษณุกรรมลงมาเนรมิตไว้ คำขวัญประจำจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
ช่วยชุมชนแออัด ขจัดมลพิษ แก้ปัญหารถติด ทุกชีวิตรื่นรมย์ <กรุงเทพมหานครฯ จะจัดให้มีการประกวดคำขวัญทุกปี จึงไม่มีคำขวัญที่แน่นอน>ดอกไม้ ต้นไม้และสีประจำจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
ต้นไม้ประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร : ต้นไทรย้อยใบแหลม
ดอกไม้ประจำจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ : ไม่มี
สีประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร : สีเขียว
![]() |
ต้นไทรย้อยใบแหลม |
ลักษณะภูมิศาสตร์
กรุงเทพมหานครมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนอาณาเขตทางทะเลอ่าวไทยตอนใน ติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดชลบุรี โดยมีรายละเอียดดังนี้ - ทิศเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี
- ทิศตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา
- ทิศใต้ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรปราการและอ่าวไทย
- ทิศตะวันตก มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดนครปฐม
สถานที่ติดต่อ
ศาลาที่ว่าการกรุงเทพมหานคร เลขที่ 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร
กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพ (+66) 0 2221 2141 - 69
Website ประจำจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ
เสาชิงช้า
เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ในพระราชพิธีตรียัมพวาย
ตรีปวาย ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พิธีนี้ถือเป็นพิธีขึ้นปีใหม่ของพราหมณ์ ซึ่งในหนึ่งปีพระ
อิศวรจะเสด็จมาเยี่ยมโลก 10 วัน พราหมณ์จะประชุมที่เทวสถานพระอิศวร แล้วผูกพรตชำระ
กายสระเกล้าเตรียมรับเสด็จพระอิศวร
พิธีโล้ชิงช้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย ได้ยกเลิกไปในสมัย
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ปัจจุบันการประกอบพระราชพิธีนี้จะกระทำ
เป็นการภายในเทวสถานเท่านั้น
กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเสาชิงช้าเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติเมื่อ วัน
ที่ 22พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 นับตั้งแต่สร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2327 จนถึงการบูรณปฏิสังขรณ์
ครั้งล่าสุดซึ่งเสาชิงช้าคู่เดิมถูกถอดเปลี่ยนเมื่อ ปี พ.ศ. 2549 เสาชิงช้ามีอายุรวม 222 ปี
ป้อมมหากาฬ
เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ในพระราชพิธีตรียัมพวาย
ตรีปวาย ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พิธีนี้ถือเป็นพิธีขึ้นปีใหม่ของพราหมณ์ ซึ่งในหนึ่งปีพระ
อิศวรจะเสด็จมาเยี่ยมโลก 10 วัน พราหมณ์จะประชุมที่เทวสถานพระอิศวร แล้วผูกพรตชำระ
กายสระเกล้าเตรียมรับเสด็จพระอิศวร เป็นป้อมขนาดใหญ่ทรงแปดเหลี่ยม วัดจากฐานชั้นนอก
ด้านทิศเหนือจรดฐานด้านทิศใต้กว้าง 38 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงปลายใบเสมา 4.9 เมตร
และ จากพื้นดินถึงหลังคาป้อม 15 เมตร โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ฐานรากอยู่ใต้ระดับผิวดิน
ป้อมมี 3 ชั้น มีบันไดทางขึ้นสู่ชั้นที่1 และ ชั้นที่ 2 กำแพงป้อมเป็นแบบใบเสมาเหลี่ยมขนาดใหญ่
ทั้งหมด ตัวป้อมชั้นบนสุดเป็นหอรูปแปดเหลี่ยม มีประตูทางเข้า 1 ประตู หลังคาโครงไม้
มุงกระเบื้อง 2 ชั้น ทรงคล้ายผาชี หรือใบบัว ที่ป้อมชั้นล่างมีปืนใหญ่ตั้งประจำช่องเสมารวมทั้ง
สิ้น 6 กระบอก
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม
กรุงเทพมหานครฯ. (2554). ค้นคืนเมื่อ กรกฏาคม 1, 2554, จาก
pages/bangkok.htm
ข้อมูลกรุงเทพมหานครฯ. (2554). ค้นคืนเมื่อ กรกฏาคม 1, 2554,
asp?provid=1